รถตัดอ้อย CASE IH A9000

วันนี้เราจะนำข้อมูลรถตัดอ้อย CASE IH A9000 ที่จะนำเข้ามาในประเทศไทยปี 2565 มาเล่าให้ฟัง รถตัดอ้อยรุ่น A9000 นี้ เป็นการพัฒนาเพิ่มขึ้นมาจาก รุ่น A8010 ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงและเทคโนโลยที่นำหน้าคู่แข่งอย่างมาก ดังนั้นพอพัฒนามาเป็นรุ่น A9000 ก็ยิ่งทำให้นำหน้าคู่แข่งไปอีกอย่างมาก ส่วนที่เพิ่มเติมจากรุ่น A8010 ประกอบด้วย
แชสซีใหม่ (แบบหลายชิ้น) เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 415 แรงม้า วงจรระบายความร้อนแบบใหม่ ระบบไฮดรอลิคใหม่ โครงสร้างชุดสะพานหางใหม่ โครงชุดยึดแทรคใหม่ ระบบเทเลเมติกส์ที่ เพิ่ม ฟังก์ชั่นมากขึ้น
เครื่องยนต์รุ่นใหม่ แรงม้ามากขึ้น
เครื่องยนต์ Cursor 11 ขนาด 415 แรงม้า ด้วยแรงม้าที่สูงจึงใช้รอบเครื่องยนต์เพื่อตัดอ้อยเพียงแค่ 1600 รอบเท่านั้น เมื่อรอบเครื่องยนต์ต่ำอายุของการใช้งานของเครื่องยนต์จึงสูงกว่า เครื่องที่จำเป็นต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูงในการทำงาน และด้วยการทดลองใช้งานกว่า 30,000 ชั่วโมงจึงมั่นใจได้ว่ารถรุ่น A9000 มีความแข็งแรงทนทานมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า
ปั๊มไฮดรอลิคแบบลูกสูบ เพื่อแรงบิดที่สูงและสมรรถนะของระบบตัดอ้อยที่มีประสิทธิภาพสูง
โครงสร้างแบบใหม่ที่ทำให้มีหลายชิ้นเพื่อให้การบำรุงรักษาง่ายขึ้น และเพิ่มความแข็งแกร่งหรือบางจุดจะใช้เหล็กให้หนาขึ้นเพื่อรับกับงานตัดอ้อยที่ต้องรับการกระแทกตลอดเวลาในการทำงาน โดยทุกชิ้นส่วนจะเข้าเครื่องสั่นสะเทือนไม่น้อยกว่า 20,000 ชั่วโมง เพื่อตรวจเช็คความทนทานของแชสซี
ระบบป้อนอ้อยแบบอัตโนมัติ เป็นจุดที่พัฒนามาใหม่ทำให้รถตัดอ้อยรุ่น A9000 ล้ำสมัยยิ่งขึ้นกว่าเดิม จากรุ่น A8010 ที่มีระบบปรับเครื่องยนต์ อัตโนมัติ ยกวางตัดโคนอัตโนมัติ เลี้ยงสกีหน้า ซ้าย-ขวาแบบอัตโนมติแล้ว รุ่น A9000 ยังมีระบบป้อนหรือกินอ้อยที่เป็นแบบอัตโนมัติด้วย นั่นคือ รอบเกียร์ตัดโคน รอบโรลเลอร์ป้อนอ้อยและสับท่อน จะปรับความเร็วการหมุนตามปริมาณที่อ้อยเข้ามา เพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำมันให้มากขึ้น นอกจากนี้รอบพัดลมใหญ่ยังปรับตามปริมาณอ้อยที่เข้ามาด้วย จุดที่เด่นอีกจุดคือรุ่นนี้พัฒนามาให้มีการติดคอด้วยการปรับความเร็วรถป้องกันการวิ่งกินอ้อยเร็วเกินไปจนเกิดการติดคอและปรับความเร็วให้ปกติหลังจากผ่านอุปสรรคอัตโนมัติ
ครีบลูกโรลเลอร์แบบใหม่ทำให้การดูดและกระจายอ้อยได้ดียิ่งขึ้น คือช่วยกระจายอ้อย ให้สม่ำเสมอก่อนสับท่อน ช่วยให้ทำความสะอาดดีขึ้นและลดการสึกหลอของใบมีดสับท่อน
ชุดแผงระบายความร้อนแบบใหม่ที่ออกแบบมาให้การทำงานระบายความร้อนดีขึ้นและการเปิดเพื่อการบำรุงรักษาทำได้ง่ายขึ้น
แผงคอนโทรลแบบใหม่ วางมือกดง่ายขึ้น
ยางหลังใหม่เป็นรุ่นไฮบริดที่มีข้อดือเป็นการผสมระหว่างดอกยางแบบเกษตรและอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน ทำให้การทรงตัวที่ดีขึ้นและอายุการใช้งานยาวนาน ในขณะเดียวกันส่วนของดอกยางที่มีขนาดใหญ่ช่วยให้การยึดเกาะที่ขึ้นสลัดดินได้ดี
หัวเก๋งรุ่นใหม่ เบาะนั่งตำแหน่งสูขึ้นเพื่อทัศนวิสัยการตัดอ้อยดีขึ้น ไฟส่องสว่างแบบ LED ที่สว่างกว่า กินไฟน้อยกว่า
ถังน้ำมันไฮดรอลิคและถังน้ำมันโซล่าแบบแยกจากตัวแชสซี และปริมาณการใช้น้ำมันไฮดรอลิคลดลงจากเดิม 100 ลิตร
ระบบเทเลเมติกส์ Telematic คือระบบบริหารรถตัดอ้อย เช่น การตรวจเช็คการทำงานของรถตัดอ้อยผ่านมือถือแบบเรียลไทม์ แจ้งเตือนชั่วโมงการเปลี่ยนถ่าย แจ้งเตือนน้ำมันรถตัดอ้อยไกล้หมด บันทึกข้อมูลของตัวรถทั้งหมดเพื่อนำมาพัฒนาการปลูกอ้อย การใช้งานรตัดอ้อย รวมถึงสามารถเข้าไปดูผ่านมือถือได้ว่ารถตัดอ้อยเสียเพราะอะไรได้
ดีที่สุดและต้นทุนต่อตันอ้อยต่ำที่สุด   ต้นทุนการใช้งานต่ำกว่าและอายุเครื่องยนต์ยาวนานกว่า อัตราการกินน้ำมันต่ำกว่า 10% (ในการทดสอบจริงสูงถึง 18%) อายุการใช้งานเครื่องยนต์ยาวนานขึ้น 50%  ประสิทธิภาพสูงขึ้นHIGHER PRODUCTIVITY เครื่องยนต์มีกำลังเพิ่มขึ้น 20% สมรรถนะในการตัดอ้อยเพิ่มขึ้น 5% (ในการทดสอบจริงสูงถึง 15% ) เพิ่มระบบอัตโนมัติในการกินอ้อย (Feed Rate Control) มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น - การบำรุงรักษาง่ายขึ้น โครงสร้างใหม่มีการทดสอบโดยเข้าเครื่องสั่นมากกว่า 30,000 ชั่วโมง ถังน้ำมันไฮดรอลิคแยกออกจากตัวโครงสร้าง ตัวแชสซียึดกันไว้ด้วยสกรูทำให้การจัดการง่าย
กูรูเคส

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การแก้ปัญหาระบบไฟฟ้ารถตัดอ้อย CASE A8000