คู่มือการใช้งานรถตัดอ้อย เคส A7000

คู่มือการใช้งานรถตัดอ้อย
ถึงเจ้าของรถตัดอ้อย A7000
คู่มือการใช้งานรถตัดอ้อยเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับการใช้งานและการบำรุงรักษารถตัดอ้อย Austoft 7000 โดยจะอ้างถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของตัวรถตัดอ้อย
อย่าใช้งานหรืออนุญาติให้บุคคลใดก็ตามมาขับรถหรือมาซ่อมตัวรถตัดอ้อยจนกว่าคุณหรือบุคคลนั้นได้อ่านคู่มือการใช้งานจนเข้าใจแล้วเท่านั้น บุคคลที่จะใช้งานได้จะต้องผ่านการฝึกอบรมและมีความสามารถที่จะใช้งานและบำรุงรักษารถตัดอ้อยได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
อย่าใช้งานรถตัดอ้อยสำหรับงานอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ได้แนะนำตามคู่มือการใช้เล่มนี้ การต้องการดัดแปลงตัวรถตัดอ้อยต้องเป็นไปตามกฎหมายแต่ละประเทศและเพื่อความปลอดภัยต้องได้รับอนุญาติจากตัวแทนจำหน่ายหรือ Case IH Austoft การดัดแปลงต่าง ๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาติจากตัวแทนจำหน่ายและ Case IH Austoft เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาหรือเกิดการบาดเจ็บหรือตายจากการดัดแปลงทางผู้ที่ดัดแปลงจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง
เราต้องมีคู่มือที่เก็บไว้ในรถตัดอ้อยโดยเก็บไว้เป็นอย่างดีและพร้อมใช้งาน สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายเพื่อขอคู่มือ อะไหล่ ข้อมูลและการช่วยเหลือต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวรถตัดอ้อย โดยตัวแทนจำหน่ายจะมีฝ่ายเทคนิคคอยให้คำแนะนำวิธีการซ่อมและบำรุงรักษารถตัดอ้อยที่ถูกวิธีให้
ความปลอดภัย
ผู้ใช้งานต้องเข้าใจในเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งานและบุคคลอื่นในการที่จะซ่อมหรือใช้งานรถตัดอ้อย รู้ตำแหน่งและการคอนโทรลต่าง ๆ ก่อนที่จะใช้งานฟังก์ชั่นต่างของรถตัดอ้อย ต้องแน่ใจว่าฟังก์ชั่นคอนโทรลต่าง ๆ พร้อมใช้งานก่อนที่จะใช้งาน
อ่านคู่มือเล่มนี้อย่างละเอียดและเข้าใจการคอนโทรลต่าง ๆ ต้งเข้าใจว่าเครื่องจักรมีความสามารถจำกัดตามประสิทธิภาพของตัวเครื่องจักร ดังนั้นจะต้องเข้าใจเรื่องความเร็ว การเบรค การเลี้ยว ความสเถียรและโหลดของตัวรถตัดอ้อยก่อนที่จะใช้งาน
ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในคู่มือเล่มนี้ไม่ได้ใส่ รหัสความปลอดภัย ประกันภัย รัฐบาล รัฐและกฎหมายท้องถิ่น ต้องแน่ใจว่ารถตัดอ้อยของคุณติดเครื่องมือถูกต้องตามความต้องการของข้อกำหนดหรือกฎหมาย
บริษัท Case IH Austoft พัฒนารถตัดอ้อยอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานและใส่ข้อกำหนดเรื่องความปลอดภัย
คือสัญลักษณ์เตือนเรื่องควาปลอดภัยที่มีความสำคัญซึ่งจะมีข้อความกำกับไว้ เมื่อคุณเห็นสัญลกัษณ์นี้ กรุณาอ่านข้อความให้เข้าใจและทำตามคำแนะนำอย่างระมัดระวัง
ข้อกำหนดความปลอดภัย
• การใช้งานรถตัดอ้อยผู้ใช้งานจะต้องนั่งบนเบาะคนขับเท่านั้น
สติ๊กเก้อร์
สำคัญ : เปลี่ยนสติ๊กเก้อร์ใหม่ถ้าสติ๊กเกอร์เก่า ฉีกขาด หาย หรือสีจางจนอาไม่ชัดเจน
A : โวลต์มิเตอร์ ( Voltmeter )
B : เกจ์น้ำมันโซล่า ( Fuel Gage )
C : เกจ์แรงดันน้ำมันเครื่อง ( Engine Oil Pressure Gage )
D : เกจ์วัดอุณหภูมิน้ำ ( Engine Water Temperature Gage )
E : เกจ์วัดอุณหภูมิน้ำมันไฮดรอลิค ( Hydraulic Oil Temperature Gage )
F : เกจ์วัดรอบเครื่องยนต์และชั่วโมงการทำงาน ( Tachometer and Hourmeter )
G : เกจ์แรงดันน้ำมันเกียร์ตัดโคน ( Basecutter Pressure Gage )
H : เกจ์แรงดันน้ำมันชุดสับท่อน ( Chopper Pressure Gage )
I : เกจ์วัดรอบพัดลมปล่องใหญ่ ( Primary Extractor Tachometer )
J : เกจ์วัดความสูงชุดเกียร์ตัดโคน ( Basecutter Height Indicator )
K : ปุ่มปรับความเร็วรอบพัดลมปล่องใหญ่ ( Primary Extractor Speed )
L : ที่จุดบุหรี่ / ปลั๊กไฟใช้ภายนอก
แผงหน้าปัทม์
แผงหน้าปัทม์ของรถตัดอ้อย Austoft A7000 ที่ติดตั้งเครื่อง Case IH Cursor แผงหน้าปัทม์จะเหมือนกับที่ใช้เครื่อง Cummins แต่ที่จะมีเพิ่มขึ้นมาคือไฟเตือน 3 สี ด้านบนคือ
สีเขียว – แสดงว่าระดับน้ำมันไฮดรอลิคต่ำ
สีเหลือง - แสดงว่าระดับน้ำหล่อเย็นต่ำ
สีแดง - แสดงว่าแรงดันน้ำมันเครื่องต่ำ
ดังนั้นผู้ขับรถตัดอ้อยจะต้องคอยสังเกตูไฟเหล่านี้ถ้าไฟติดให้ดับเครื่องยนต์ทันทีและรีบตรวจเช็คในทันที
>
.
การคอนโทรลรถตัดอ้อย
.
U1 : แตร
U2 : ปุ่มปิดเปิดสะพานลำเลียง
V1 : คันโยกเดินหน้า-ถอยหลัง
V2 : คันเร่ง
W1 : ตัวล็อคแกนพวงมาลัย
X1 : ขาสวิงหางข้างซ้าย
X2 : ขาสวิงหางข้างขวา
.
.
Y1 : ปุ่มปรับสูงต่ำ(ด้านหน้า/ด้านหลัง)
Y2 : คันปรับเดินหน้า-ถอยหลัง
Y3 : ปุ่มปรับเอนเบาะด้านหลัง
Y4 : ปุ่มตั้งระดับน้ำหนัก
Y5 : ปุ่มล็อค
.
.
ปุ่มคอนโทรลการตัดอ้อย
A : ปุ่มหมุนปล่องพัดลมเล็ก
B : ปุ่มเลือกทิศทางการทิ้งยอดอ้อย(ชุดตัดยอด)
C : ปุ่มเลือกการกินอ้อย/คายอ้อย
C1 : ปุ่มปรับองศาชุดเกียร์ตัดโคน (ออพชั่น)
C2 : ปุ่มปรับชุดโน้มอ้อย(PKD) (ออพชั่น)
D : ปุ่มปรับระดับบินแฟลบ
E : ปุ่มหมุนปล่องพัดลมใหญ่
F : ปุมยก/วางหางสะพานลำเลียง
G : ปุ่มยกวางครอปดิไวเดอร์ข้างซ้าย
H : ปุ่มยกวางครอปดิไวเดอร์ข้างขวา
I : ปุ่มปรับทิศทางการหมุนใบมีดตัดเถาซ้าย
J : ปุ่มปรับทิศทางการหมุนใบมีดตัดเถาขวา
K : ปุ่มกำหนดทิศทางสะพานลำเลียง
C1 : ปุ่มปรับองศาชุดเกียร์ตัดโคน (ออพชั่น)
C2 : ปุ่มปรับชุดโน้มอ้อย(PKD) (ออพชั่น)
D : ปุ่มปรับระดับบินแฟลบ
E : ปุ่มหมุนปล่องพัดลมใหญ่
F : ปุมยก/วางหางสะพานลำเลียง
G : ปุ่มยกวางครอปดิไวเดอร์ข้างซ้าย
H : ปุ่มยกวางครอปดิไวเดอร์ข้างขวา
ทำอย่างไรจึงจะทำให้รถตัดอ้อยทำงานเต็มประสิทธิภาพ
การที่จะทำให้รถตัดอ้อยตัดอ้อยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดขึ้นอยู่กับทักษะและความตั้งใจของผู้ขับขี่ ฟังก์ชั่นการทำงานควบคุมโดยผู้ขับขี่ในแคบ นั่นคือเป็นความรับผิดชอบของผู้ควบคุมที่จะทำให้รถตัดอ้อยอยู่ในสถานะพร้อมใช้งานและสามารถให้คำแนะนำในการปรับและซ่อมบำรุงให้รถตัดอ้อยสามารถทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
รถตัดอ้อยจะต้องสะอาดหรืออย่างน้อยจะต้องทำความสะอาดทุกวันหลังจากตัดอ้อยเสร็จ บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้หรือตามที่มีเวลา นอกจากการทำความสะอาดจะทำให้รถตัดอ้อยตัดได้ประสิทธิภาพสูงสุดแล้วยังช่วยให้เรารู้ว่าในตัวรถของเรามีอะไรบ้างที่เริ่มมีปัญหา เช่น น้ำมันรั่วซึม น๊อตที่คลายตัว ลูกปืนที่มีปัญหา เป็นต้น การที่เราใส่ใจและจัดการตั้งแต่เริ่มจะเสีย จะช่วยให้เราแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและช่วยป้องกันการเสียหายใหญ่ให้กับตัวรถตัดอ้อย
สิ่งต่อไปนี้จะเป็นส่วนที่สำคัญที่สงผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพและคุณภาพของอ้อยที่ใช้รถตัดอ้อยตัด
หมายเหตุ : รถตัดอ้อยเป็นเครื่องมือในการตัดอ้อยที่มูลค่าสูง ดังนั้นควรใช้รถตัดอ้อยตามที่ออกแบบมา เพราะว่ารถตัดอ้อยไม่ใช่ รถเกลี่ยดิน ( Bulldozer ) รถขุดดิน ( Excavator ) ไม่ใช่รถตัดต้นไม้ เพราะนี่คือรถตัดอ้อย เพราะฉะนั้นอย่านำรถไปใช้ผิดประเภท
ชุดตัดยอด ( TOPPER )
ชุดตัดยอด ( TOPPER ) ทำหน้าที่ตัดยอดอ้อยและสลัดยอดอ้อยที่ตัดแล้วออกไปไนพื้นที่ที่ได้ตัดอ้อยแล้ว โดยที่สามารถปรับระดับสูงต่ำและทิศทางการสลัดใบอ้อยทิ้งได้จากห้องคนขับ
ตัวรวบยอดอ้อย ( Gathering Discs) ทำงานโดยตัวรวบยอดอ้อยทรงกระบอกติดจานรูปแฉกดาว 2 ลูก หมุนเข้าหากันเพื่อดึงยอกอ้อยเข้าหาใบมีดตัดยอด
ชุดใบมีดตัดยอด ( Severing Disc ) โดยชุดตัดยอดอ้อยจะรับอ้อยจากชุดรวบยอดอ้อยและสลัดใบทิ้งไปซ้าย-ขวา โดยทิศทางการหมุนเพื่อสลัดอ้อยทิ้งควรสลัดไปทางพื้นที่ที่ได้ตัดอ้อยแล้ว
อาร์มหรือแขนชุดตัดยอดอ้อย ( Toper Poles ) อาร์มตัดยอดทำหน้าที่ช่วยยกชุดตัดยอด โดยมีจุดหมุนโดยสลักยึดที่ปลายแขนทั้งสองข้างเพื่อให้ขยับขึ้นลงได้
กระบอกไฮดรอลิค ( Topper Cylinder ) ใช้ยกแขนชุดตัดยอดขึ้น – ลง คอนโทรลการทำงานโดยคันบังคับในห้องคนขับ
ข้อระวัง : ห้ามใช้ความเร็วสูงขณะที่ยกชุดตัวตัดยอดขึ้นสูงสุดเพราะถ้าเกิดการกระแทก อาจจะทำให้แกนกระบอกไฮดรอลิคงอได้
การทำงานชุดตัดยอด ( TOPPER )
ชุดตัดยอดสามารถหมุนได้สองทิศทางนั่นคือเมื่อเราตัดอ้อยเราสามารถตัดยอดอ้อยให้ไปในทิศทางด้านที่เราตัดอ้อยไปแล้วได้ใบอ้อยจะได้ไม่ไปตกในร่องที่ยังไม่ได้ตัดซึ่งช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น และถ้าเป็นไปได้ควรตัดอ้อยที่ใต้ลมเพื่อที่จะได้ไม่ทำให้อ้อยที่ตัดนั้นปลิวเข้าไปในร่องที่ยังไม่ได้ตัด การกำหนดความสูงชุดตัดยอด
การตัดอ้อยควรที่จะเปิดชุดตัดยอดเพื่อที่จะได้ช่วยลดภาระของปล่องพัดลมที่จะต้องเป่าใบอ้อยออกและทำให้ส่วนปลายของอ้อยที่ยังไม่เป็นปล้องอ้อยไม่ติดขึ้นไปในรถบรรทุก ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่มีความหวานต่ำซึ่งทำให้ความหวานของอ้อยลดลง ระดับที่ควรตัดคือตาม รูปที่ 1 แต่ถ้าความสูงของอ้อยไม่เท่ากันให้ตัดตาม รูปที่ 2
การบำรุงรักษา ( Maintenance ) ทุกวันก่อนการตัดอ้อย ควรตรวจเช็ครายการดังนี้
1. เช็คสภาพ ความคมและการสึกของใบมีด จานใบมีด และควรเปลี่ยนเมื่อสึกและทื่อ
2. เช็คการรั่วซึมของท่อ – สายน้ำมันไฮดรอลิค
3. เช็ครอยแตกร้าวของโครงยึดต่าง ๆ
4. หมุนใบมีดตัดยอดและตัวรวบอ้อยเพื่อเช็คการหมุนและการสั่นของชุดตัดยอด เพื่อเช็คความผิดปรกติและทำความสะอาดให้พร้อมใช้งานเสมอ
ทุกสัปดาห์ ( Every Week )
1. ตรวจเช็คตามปกติประจำวัน
2. อัดจารบีจุดหมุนสลักยึด
3. หยอดน้ำมันหล่อลื่นสลัดยึดกระบอกไฮดรอลิคที่แขนยึดและตัวรถ
ทุกเดือน ( Every Month )
1. ตรวจเช็คตามปกติประจำวัน
2. อัดจารบีปกติประจำสัปดาห์
3. หยอดน้ำมันหล่อลื่นตามปกติ
4. อัดจารบีลูกปืนจานใบมีดตัดยอด
5. อัดจารบีลูกปืนตัวรวบยอดอ้อย ( ต้องเปิดฝา)
บทที่ 2 ชุดเกลียวแบ่งอ้อย
การทำงาน ทำหน้าที่ยกอ้อยที่ล้ม และแยกอ้อยร่องที่ตัดออกจากร่องที่ไม่ได้ตัด สามารถปรับระดับสูงต่ำได้จากห้องขับขี่
1.โครงยึดเกลียวแบ่งอ้อยยึดติดกับโครงตัวรถโดยแขนยึด 2 ตัวเพื่อให้โครงลอยตัวอยู่เหนือพื้นดิน
2.เกลียวนอกและในยึดติดกับแท่นบนโครงขับโดยมอเตอร์ไฮดรอลิค การหมุนของเกลียวจะทำให้ยกอ้อยขึ้นและแยกอ้อยออกจากกันก่อนเข้าสู่ตัวรถ
3.การปรับความกว้างชุดเกลียวแบ่งอ้อยทำได้ 2 ระยะคือ 1.20เมตร และ 1.5 เมตร ระหว่างปลายชุดเกลียวทั้ง 2 ข้าง
4.รองเท้าส่วนมีเพื่อให้ซ่อมบำรุงได้ง่ายเมื่อมีการสึก ถูกยึดกับโครงโดยสลักเกลียวด้านท้ายขอบล่างตัวโครง รูสลักยึดบน
5.เช็คการเสียหายชุดเกลียวแบ่งที่แท่นยึดเกลียวท่อและสายไฮดรอลิค รูสลักยึดล่าง
6.จุดอัดจารบีอยู่ด้านล่างเกลียวที่แท่นยึดแต่ละข้างและที่ปลายแขนยึดทั้งโครงทั้ง2ข้าง
การตั้งระยะการใช้งานชุดเกลียวแบ่งอ้อยที่กระบอกยก
กระบอกยกชุดเกลียวแบ่งอ้อยมีสปริงยึดอยู่ภายในเพื่อลดแรงกดบนพื้นของชุดเกลียวแบ่ง
วิธีการปรับ
1.ลดระดับชุดเกลียวแบ่งลดลงพอที่จะให้พื้นโครงและพื้นโครงและพื้นดินเบาโดยแน่ใจว่าสปริงถูกกดจนสุดและกระบอกไม่ดันให้ปลายเกลียวแบ่งฝังลงไปในพื้นดิน
2.ระดับที่ยกสูงจากพื้นของพื้นเกลียวจะต้องยกเกลียวโดยให้สปริงยึดสุด ชุดเกลียวลอยจากพื้นดินระยะยึดหดสปริงสูงสุด 180 มม.
กระบอกยกเกลียวแบ่งอ้อยจะติดสปริงไว้ซึ่งทำให้ชุดเกลียวลอยอยู่เหนือผิวดินเพื่อความแน่ใจ แรงดันที่กดสปริงที่กดสปริงให้หดสิ้นสุด พื้นชุดเกลียวแบ่งอ้อยต้องแตะเพียงผิวดิน
ข้อควรปฏิบัติ
1.ในพื้นที่ที่มีหินและวัชพืชมากอาจจะต้องยกชุดเกลียวให้สูงขึ้นกว่าเดิม
2.อัตราเร็วที่การตัดอ้อยล้มขึ้นอยู่กับว่าชุดเกลียวสามารถดึงอ้อยที่ล้มขึ้นมาได้ดีเพียงใดการตัดเร็วเกินไปจะทำให้เก็บอ้อยไม่หมด อ้อยเสียหาย ถอนรากถอนโคนและสิ่งสกปรกติดเข้าไปมาก
ชุดเกลียวแบ่งควรตั้งระยะไว้ไม่ให้พื้นไถไปกับพื้นดินซึ่งทำให้เศษดินเข้าชุดตัดโคน การปรับมุมชุดเกลียวแบ่งควรตั้งให้เหมาะกับอ้อยเพื่อให้ราบอ้อยที่ล้มนอนเข้าสู่ตัวรถให้มากที่สุดพื้น ชุดเกลียวต้องตั้งระดับเรียบผิวดินเพื่อให้อ้อยที่เข้าตัวรถไม่หลุดรอกออกไป
การบำรุงรักษาชุดเกลียวแบ่งอ้อย
ทุกสัปดาห์-อัดจารบีบูชที่แขนยึดเกี่ยวแบ่งอ้อย
ทุก2เดือน-อัดจารบีลูกปืนแท่นจุดหมุนเกลียวแบ่งอ้อย
ชุดตัดโคน
ชุดใบมีดตัดโคนจะถูกตัดโคนจะถูกขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฮดรอลิคผ่านชุดเกียร์ขับเพลาจับจานใบมีด 2 จาน แต่ละจานจะมีใบมีด 5 ใบ ติดอยู่ ใบมีดตัดอ้อยที่ระดับผิวดินและดีดอ้อยเข้าสู่ชุดลำเลียงความสูงของการตัดโคนจะควบคุมโดยผู้ขับขี่ เพื่อให้ตัดโคนในระดับที่ถูกต้อง
ชุดใบมีดตัดโคนสามารถปรับมุมการตัดเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพพื้นแปลงที่แตกต่างกัน 11 องศา กับ 15 องศา ชุดใบมืดตัดโคนควรตั้งตำแหน่งที่11 องศาในสภาพพื้นแปลงที่ราบเรียบ และที่ตำแหน่ง 15 องศาอเมื่อตัดอ้อยในร่องที่พูนโคนสูง การปรับมุมชุดใบมีตัดโคน
1.ถอดน็อตยึดชุดมอเตอร์ขับโรลเลอร์กระทุ้งทั้ง2ข้างขึ้นเมื่อปรับมุมตัดเป็น 15 องศา ขยับลงเมื่อปรับมุมตัดที่ 11 องศา แล้วล็อคน็อตยึดให้แน่น 2.ถอดน็อตชุดหน้า และคลายน็อตชุดหลังที่ชุดเสื้อเกียร์
3.ขยับเสื้อเกียร์ขึ้นปรับมุม 11 องศา ขยับลงเมื่อปรับมุม15 องศา แล้วล็อคน็อตยึดทั้งหมด ให้แน่น
การเปลี่ยนจานใบมีดตัดโคน
วิธีการ
1.ถอดน็อตขนาด 16 มม.ทั้ง5ตัวที่ยึดจานกับเพลาใบมีดออก
2.เปลี่ยนจานใหม่พร้อมยึดน็อตให้แน่น
การเปลี่ยนใบมีดตัดโคน
เครื่องมือ บล็อก 1 นิ้ว ด้ามขัน1⁄2นิ้ว ใบมีดที่ตัดโคนต้องคมเมื่อมุมคมถูกลบเหลี่ยมจนโค้ง จะทำให้ใบมีดที่ตัดโคนต้องคมเมื่อมุมคมถูกลบเหลี่ยมจนโค้ง จะทำให้ใบมีดตัดอ้อยให้ขาดโดยการเหวี่ยง
วิธีการ
1.ถอดน็อตยึดใบมีดออกทั้งหมดและถอดใบมีดออก
2.เก็บใบมีดเก่าเพื่อนำไปลับคม แต่ถ้าสึกหรอมากให้เปลี่ยนใบใหม่
3.เก็บน็อตยึดไว้ใช้อีกถ้ายังใช้ได้ หากเสียให้เปลี่ยนใหม่ขนาดเดิมกับที่ใช้
4.เปลี่ยนใบมีดใหม่หรือลับหน้าคมแล้วใส่กลับพร้อมยึดน็อตให้แน่นตามเดิม
การลับคมใบมีด
1.ตัดปลายปลายใบมีดออกประมาณ 1 นิ้ว ความยาวที่เหลือต้องไม่น้อยกว่า 3 3⁄4 นิ้ว จากรูแรกบนจานโดยความยาวใบมีดนี้น้อยกว่า6 1⁄4 นิ้วให้ทิ้งไปก่อนนำมาลับคม
2.เจียรไนแต่งมุมใบมีด มุมคมที่ใบมีด มุมคมที่มีใบมีดที่ถูกต้องประมาณ 10 องศา
การตรวจสอบภาพใบมีด
1.สภาพใบมีด(ความคม ความแข็ง ความโค้งงอ)
2.การขัดแน่นของน็อตยึด
3.การรั่วซึมน้ำมัน
4.การแตกและสึกของสายน้ำมัน
การปรับแต่งใบมีดโคน
ใบมีดควรได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมเสมอระหว่างการใช้งาน เมี่อใบมีดสึกหรือเสียหาย ต้องทำการซ่อมให้กลับคืนรูปร่างเดิม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างการใช้งาน
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ใบมีดตัดโคน
การเติม เช็คระดับน้ำมันเกียร์ ทุกๆ 1 สัปดาห์ โดยระดับน้ำมันจะอยู่ระดับน้ำมันจะอยู่ระดับเดียวกับปลั๊กอุดรูวัดระดับน้ำมันทางด้านซ้ายมือของเสื้อเกียร์
การถ่าย ทุกๆเดือนเมื่อเปลี่ยนน้ำมัน ถ่ายน้ำมันออกจากเสื้อเกียร์ ต้องถอดปลั๊กอุดที่ด้านล่างของเสื้อเกียร์ ระหว่างเสื้อเพลาใบมีดทั้งสองข้าง ในการเติมน้ำมันให้เติมผ่านรูเติมด้านบนซ้ายของเสื้อเกียร์หลังมอเตอร์ขับเกียร์
การอัดจารบีลูกปืนเพลาใบมีดตัดโคน
ลูกปืนเพลาใบมีดตัดโคนไม่ได้รับการหล่อลื่นจากน้ำมันห้องเกียร์ แต่ถูกอัดจารบีตอนที่ประกอบ และต้องอัดจารบี ทุกๆช่วงระหว่างฤดูกาล
ปลั๊กอุดรูจารบีจะอยู่ที่แต่ละข้างของเสื้อเพลาทุกๆ25000ตัน หรือ 500ชั่วโมงของการทำงานควรถอดปลั๊กออกมาแล้วใส่หัวอัดจารบี โดยอัดจารบีประมาณ 6 ปั๊มมือโยกของแต่ละข้างของเสื้อเพลา เมื่ออัดจารบีแล้วนำปลั๊กอุดคืนที่เดิม
การอัดจารบีซีลเพลาใบมีดตัดโคน
ที่บริเวณซีลของเสื้อเกียร์ใบมีดตัดโคนตรงด้านล่างเสื้อเพลาใบมีด มีหัวอัดจารบีระหว่างซีล2ตัวที่ใส่ไวบนเพลาใบมีด ควรอัดจารบีสัปดาห์ 2 ปั้มมือโยก
ชุดโรลเลอร์ลำเลียง
การตั้งทุ่นลอยด้านข้างชุดเกลียวแบ่งอ้อย
ทุ่นลอยด้านข้างจะมีจุดหมุนอยู่ที่ด้านท้ายของโครงเกลียวแบ่งอ้อยด้านผนังในและตั้งให้ลอยตามสภาพพื้นที่ต่างๆ ที่ด้านท้ายของทุ่นลอยมีโซ่ลอยและยึดห้อยโดยที่ห่วงนั้นเป็นรูปตัวดี D กับด้านข้างผนังรถด้าน
กระตั้งระยะของทุ่นลอยนั้น ควรให้โซ่ดึงท้องทุ่นลอยให้แตะระดับผิวพื้นที่ระดับของการตัดโคน เมื่อเรายกระดับตัวรถขึ้นทุ่นลอยต้องลอยเหนือพื้นตามด้วย เพื่อป้องกันการเสียหายของทุ่นลอย เมื่อรถตัดอ้อยทำการถอดหลัง
โรลเลอร์โน้มอ้อยและโรลเลอร์ครีบ
จะทำหน้าที่โน้มอ้อยไปข้างหน้าและให้อ้อยทางด้านล่างเข้าสู่ใบมีดตัดโคนก่อน
การปรับโรลเลอร์โน้มอ้อย
สามารถปรับได้ 4 ระดับ ตามสภาพพื้นที่ที่ต่างกันในสภาพที่อ้อยตั้งตรง โรลเลอร์ต้องยกขึ้นโดยที่อ้อยล้มโรลเลอร์จะกดมาข้างหน้าให้ต่ำลง
วิธีการปรับโรลเลอร์
ถอดน็อตที่ยึดแป้นขับโรลเลอร์ไว้ ขยับโรลเลอร์ตามตำแหน่งที่ต้องการ โดยใส่น็อตตัวผู้ล็อคไว้และเปลี่ยนน็อตตัวเมียที่ล็อคอยู่
ชุดโรลเลอร์ป้อนอ้อย
ชุดโรลเลอร์ป้อนนับตั้งแต่โรลเลอร์แตะอ้อยด้านหลังใบมีดตัดโคน และโรลเลอร์แถวล่าง 5 ลูกกับโรลเลอร์ทุ่นแถวบนอีก 5 ลูก ลูกโรลเลอร์ทุ่นแถวบนอีก 5 ลูก ลูกโรลเลอร์จะยึดด้วยลูกปืนแบบปรับหาศูนย์เองพร้อมซีลด้านหนึ่ง และชุดลูกปืนของมอเตอร์ขับอีกด้านหนึ่ง
ลูกโรลเลอร์แถวล่าง 2 ลูกแรก จะมีมอเตอร์ขับทั้งสองข้างที่ปลายลูกโรลเลอร์ลูกปืนจะมีซีลกันฝุ่นป้องลูกปืนจากเศษฝุ่นที่เข้าไปภายในโรลเลอร์ล่าง 2 ลูกแรกจะมีแถบฟัน 3 แถบเช่นเดียวกับลูกโรลเลอร์เตะอ้อย ส่วนลูกอื่นๆ จะมีแถบฟัน 8 แถบเชื่อมติดโดยรอยบลูกโรลเลอร์
ลูกโรลเลอร์เตะอ้อยจะมีแถบฟัน3แถบเพื่อเตะอ้อยที่ถูกตัดโคนแล้วเข้สู่ชุดลำเลียง ระยะหว่างโรลเลอร์กับใบมีดตัดโคนต้องเหมาะสมกันเสมอเพื่อป้องกันการสูญเสียอ้อย โดยการขับของลูกโรลเลอร์จะขับโดยมอเตอร์ไฮดรอลิคแต่ละตัวแยกกันอ้อยที่ถูกเลียงจะผ่านลูกโรลเลอร์แถวล่างและบนหรือโรลเลอร์ทุ่นเข้าสู่ระบบสับท่อน
การบำรุงรักษาชุดโรลเลอร์ป้อนอ้อย
1. โรลเลอร์แถวบนควรขยับขึ้นลงสุดโดยอิสระเมื่ออ้อยป้อนผ่านชุดโรลเลอร์
2. ฟันของแถบฟันโรลเลอร์ควรอยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
3. ลูกโรลเลอร์ควรปราศจากโคลนดินและเศษใบอ้อยเสมอ
4. ลูกปืนลูกโรลเลอร์ควรอัดจารบี ทุก 2 เดือน 1 ปั้มมือโยกสำหรับรถใหม่รุ่นช้างเหล็ก และ ทุกสัปดาห์ สำหรับรถเก่าปี 93 – 94
ระบบสับท่อน
ระบบสับท่อนประกอบด้วยลูกทรงกระบอก 2 ลูกยึดจับใบมีดหมุนเข้าหากันโดยมุมของใบมีบนลูกทรงกระบอกทำมุม 180 องศาต่อกัน (ตรงข้าม)
ลูกทรงกระบอกจะถูกหมุนขับโดยมอเตอร์ไฮดรอลิค 2 ตัว อิสระต่อกันด้านหนึ่งและอีกด้านถูกยึดด้วยเฟืองเกียร์ขบกันโดยไทม์มิ่งเกียร์ ล้อช่วยแรง วิ่งบนเฟืองแยกต่างหากขับโดยเฟืองเกียร์ชุดบน เพื่อรักษาสมดุลของระบบการสับท่อน ล้อช่วยแรงจะติดแผ่นสลิปคลัชเพื่อป้องกันการเสียหายของฟันเกียร์เมื่อระบบสับติดขัด
ใบมีดสับท่อนอ้อย
ใบมีดแต่ละใบถูกยึดโดยน็อตตัวผู้ขนาด 5/8 นิ้ว 7ตัว และมีแผ่นประกับจับยึด
1.ใบมีดสับท่อนเป็นแบบดีดตัวออกจากกัน “THROW AWAY” ถูกยึดบนลูกทรงกระบอกโดยประกับจับยึด
2.ด้านมุมคมของใบมีดหันหน้าไปข้างหลังตัวรถ
3.ใบมีดต้องคมอยู่เสมอ
4.แน่ใจว่าใบมีดใช้งานได้ดีจนกว่าจะตัดอ้อยไม่ขาดออกจากกัน
5.ความคมของใบมีดเช็คจากการหลุดของกาบใบโดยง่ายและถูกดูดโดยพัดลมดูด
ข้อควรปฏิบัติ
ไทม์มิ่งเกียร์ควรขยับตำแหน่งทุกระยะ 25000 ตัน เพื่อลดการสึกของฟันเกียร์และยึดอายุการใช้งาน ขีดมาร์คฟันเกียร์เมื่อใบมีดสับท่อน ขบกันตอนประกอบ เพื่อให้แน่ใจว่าตำแหน่งจะไม่ถูกใช้งานซ้ำอีก ไทม์มิ่งสามารถพลิกกลับใช้ได้อีกหน้าเฟืองเพื่อให้แน่ใจว่าอายุการใช้งานสูงสุดการรับประกันจะขึ้นกับการปฏิบัติตามคำแนะนำ
ฝาปิดรูตรวจสอบไทม์มิ่ง เมื่อจำเป็นต้องเช็คหรือ ปรับไทม์มิ่งเกียร์ตัวบน เปิดฝากออกดูว่าเกียร์ตัวบนหมุนในตำแหน่งตามเข็มนาฬิกา น็อตที่จับยึดอยู่ในตำแหน่งสุกขอบรูรูปถั่ว ตามมาตรฐานเดิม
การเชื่อมพอกดรัมสับท่อน
การเชื่อมพอกดรัมสับท่อนอาจทำให้ ดรัมบิดตัวได้
หมายเหตุ :การเชื่อมพอกทางโรงงานทำการเชื่อมก่อนมีการกลึงแต่งดรัมสับท่อน การบิดตัวของดรัมจะทำให้การหมุนของเฟืองเกียร์ผิดศูนย์และเกิดการเสียหายจากการผิดศูนย์เนื่องจากดรัมบิดจากากรเชื่อมพอก
สำหรับสิ่งเหล่านั้นผู้ที่จะปฏิบัติและเชื่อมตามคำแนะนำอาจลดปัญหาที่เกิดขึ้นได้
1.เชื่อมทีละน้อยและทำให้เย็นลงระหว่างการเชื่อม
2.เชื่อมฝั่งตรงข้ามสลับกันไป
3.เมื่อเชื่อมเสร็จการบิดตัวของกระบอก โดยยึดปลายดุมทั้ง 2 ข้างของเกียร์กับมอเตอร์เช็คศูนย์โดยหน้าสัมผัส
การบำรุงรักษา
1.ทุกวันเช็คสภาพความคมของใบมีด
2.ทุกสัปดาห์เช็คระดับน้ำมันเกียร์ และอัดจาระบีลูกปืนเพลากระบอกใบมีด
3.ทุกเดือน หรือ 250ชั่วโมง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์
การตั้งคลัตช์ล้อช่วยแรง
ระบบกลไกของใบมีดสับท่อนถูกต่อกับล้อช่วยแรงซึ่งมีสลิปคลัชต์ป้องกันการทำงานเกินภาระ
ข้อสำคัญ คลัตช์นี้จะทำงานอยู่เสมอเมื่อมีการรับโหลดมากเกิน เพื่อมิให้ส่วนอื่นเสียหายแรงดันสปริงกดคลัตช์ 100 นิ้ว/ปอนด์
หมายดหตุ นี่เป็นค่าเริ่มต้นเท่านั้นและแรงขันกดสปริงควรเพิ่มขึ้นถ้าคลัตช์ลื่น โดยง่าย หรือลดลงถ้าคลัตช์ไม่ลื่นเมื่อรับโหลดเกิน
การบำรุงรักษาคลัตช์ล้อช่วยแรง
การขันแน่นเกินหรือคลัตช์ติดขัด
จะทำให้ฟันเกียร์รับภาระมากเกินไป การรับภาระมากเกินไปจะเป็นเหตุให้ฟันเกียร์เสีย ซึ่งจะไม่รับประกันความเสียหาย
ข้อควรระวัง
ต้องแน่ใจว่าคลัชต์ถูกปรับแต่งด้วยค่าที่กำหนดให้เท่านั้นเมื่อตัดตัดมนสภาพปกติแต่หลวมพอที่จะให้คลัตช์ลื่นเมื่อรับภาระเกิน
ความชื้น เมื่อความชื้นเข้าไปขณะประกอบคลัตช์ สามารถเป็นเหตุให้เกิดสนิม และทำให้เกิดสนิมและทำให้เกิดการฝืดของคลัตช์ได้
สาเหตุที่ทำให้คลัตช์ทำงานไม่ถูกต้อง
1.ปรับแรงขับกดสปริง แน่น/อ่อน เกินไป -ปรับแต่งใหม่
2.แผ่นของคลัตช์เป็นสนิม -ขัดสนิมออก
3.บุชล้อช่วยแรงติดขัด -เปลี่ยน หรือ ซ่อม
การปรับคลัตช์ล้อช่วยแรง
เครื่องมือที่ใช้ บล็อกเบอร์ 18/ด้ามขัน 1⁄2 นิ้ว / แหวนข้างปากตายเบอร์ 18/ ประแจปอนด์ W AND B MODEL 320400
วิธีการ
1.คลายน็อตเบอร์ 18 ที่จับยึดด้านหลังล้อช่วยแรง
2.หย่อนน็อตตัวผู้ ปรับแรงกดเบอร์ 18 ทั้ง 8 ตัวไว้
3.บล็อคกระบอกใบมีดสับท่อน และหมุนล้อช่วยแรงเพื่อให้แน่ใจว่าคลัตช์ลื่นไม่ติด
4.ขันน็อตปรับแรงกดไปจนกว่าจะถึง 100นิ้วปอนด์
หมายเหตุ ถ้ามาร์คขึดบนล้อช่วยแรงเคลื่อนออกจากกันขณะทำงานปกติให้เพิ่มแรงขัดกดสปริงช้าๆจนกว่าคลัตช์จะลื่นเมื่อมีการติดขัด(จากท่อนไม้ หิน และ อื่นๆ)
สะพาน โซ่ลำเลียง
สะพานโซ่ลำเลียงขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฮดรอลิคซึ่งควบคุมการหมุนได้จากห้องขับขี่สะพานโซ่ลำเลียงท่อนอ้อยที่ถูกสับจากตะกร้า และทำให้สิ่งปรกหลุดร่วงลงไปจากท่อนอ้อยสะพานโซ่ลำเลียงยึดโดยกระบอกไฮดรอลิคคู่ซึ่งยึดติดกับโซ่รอบปล่องพัดลมใหญ่ สะพานโซ่ ลำเลียงสามารถยกขึ้นลงได้จากคันบังคับจากห้องขับขี่ สะพานโซ่ลำเอียงต้องอยู่ในตำแหน่งตรงหลังเมื่อลดระดับต่ำลงเมื่อปรับตั้งความตึงหย่อนโซ่และบำรุงรักษาชุดสะพานและชุดพัดลมดูดตัวเล็ก
หมายเหตุ ทั้งนี้เป็นการช่วยการทรงตัวของรถตัดอ้อยและลดภาระบนอุปกรณ์ชุดขับเคลื่อนโซ่สะพานลำเลียงจะวิ่งบนแผ่นรองกันสึกควรตรวจเช็คการสึกอยู่เสมอ
หมายเหตุ การสึกบนแผ่นรองกันสึกมากเกินไปจะทำให้แผ่นใบสะพานครูดไปกับพื้นสะพานและทำให้พื้นสะพานเสียหายได้
ข้อควรระวัง เมื่อลดระดับสะพานโซ่ลำเลียงลงต้องแน่ใจว่าความยาวสะพานโซ่อยู่ในแนวเดียวกับตัวรถด้านหลัง ถ้าไม่ตรงแนวกันจะมีผลทำให้ตระกร้าและโครงเสื้อใบมีดสับท่อนเสียหายการลดระดับสะพานโซ่ควรกระทำเมื่อมีการทำงานบนสะพานเท่านั้นไม่ควรขับขี่รถขณะสะพานรถต่ำสุดอาจจะทำให้สะพานเสียหายได้ขณะเลี้ยวรถ
สะพานโซ่ลำเลียงสามารถหมุนซ้าย-ขวาได้ 170 องศา โดยรอบด้านท้ายของตัวรถตัดอ้อย
การตั้งความตึงหย่อนโซ่สะพาน
เครื่องมือ – บล็อก 3⁄4 /ด้านขัน1⁄2/แหวน 9/16/แหวนข้างปากตาย15/16 / ประแจหกเหลี่ยม
วิธีการ
1.ลดระดับสะพานต่ำลงสุดด้วยกระบอกไฮดรอลิค
2.คลายน็อตยึดแป้นเสื้อลูกปืนทั้งสองข้างของเพลาขับโซ่สะพาน
3.คลายน็อต 3 ตัว ที่ยึดแผ่นปรับเลื่อนด้านล่างสะพานโซ่
4.ขันหรือคลายน็อตล็อคสกรูปรับอย่างนุ่มนวลแต่ละข้างขันตามเข็มนาฬิกาเพื่อตั้งโซ่ให้ตึง ตั้งโซ่ที่ละข้างให้ตึงหย่อนขึ้นลงระยะ 1 นิ้ว(ขยับขึ้น-ลง)
หมายเหตุ โซ่หนึ่งอาจจะยึดมากกว่าโซ่อีกข้างหนึ่งซึ่งจะทำให้โซ่หย่อนมากกว่าเมื่อตั้งโซ่เสร็จแล้ว
5.เช็คอย่างระมัดระวังว่าเพลาขับโซ่ขนานกับเพลาตามโดยวัดระยะจากเสื้อลูกปืนกับโครงสะพานโซ่
หมายเหตุ พื้นสะพานโซ่ต้องทำความสะอาดอยู่เสมอเมื่อรูบนพื้นสะพานเริ่มมีสิ่งปรกอุดตัน
การเลื่อนใบสะพานโซ่
เครื่องมือ – บล็อก 9/6 / ด้านขัน 1⁄2 /แหวนข้างปากตาย9/16
วิธีการ
1.ข้อต่อโซ่และลูกกลิ้งโซ่ที่ยึดตึดกับสะพานจะสึกเร็วกว่าข้ออื่น เมื่อมีการสึกควรเลื่อนใบสะพานโซ่ออกไปอีกข้อถัดไปทุกใบเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างใบสะพาน
2.ถอดน็อตยึดใบสะพานออกทั้ง2ข้าง แล้วเลื่อนใบสะพานไปข้อโซ่ใหม่แล้วล็อคน็อตยึด
หมายเหตุ ใบสะพานไม่สามารถกลับหน้า หลัง บน ล่าง ใช้ได้
การปรับจานโซ่ตาม
เครื่องมือ – บล็อกเบอร์ 16 /ด้านขัน1⁄2
วิธีการ
1.ต้องแน่ใจว่าโซ่หย่อนพอที่จะปรับแต่งได้
2.คลายน็อต3ตัวบนแป้นยึดจานโซ่ตาม
3.เลื่อนโซ่สะพานข้อโซ่ที่นึดใบสะพานให้อยู่บนฟันจานโซ่กดจานโซ่ลงประมาณ1/8นิ้ว จนกว่าใบสะพานเริ่มแตะพื้นราง
4.ขันน็อตยึดแป้นยึดจานโซ่ให้แน่น
หมายเหตุ ทำการปรับตั้งจานโซ่ตามทั้ง 2ข้าง เพื่อให้ข้อห่างระหว่างใบสะพานกับพื้นเท่ากันทั้ง2ฝังโดยตลอด
แผ่นบังคับการตกท่อนอ้อย
ใช้สำหรับบังคับการตกของท่อนอ้อยให้กระจายลงในกระบะรับสามารถปรับโดยบังคับจากห้องขับขี่
ชุดขับเคลื่อนทิศทางสะพานโซ่ลำเลียง
ระบบกลไกลขับเคลื่อนทิศทางสะพานโซ่ลำเลียงประกอบไฮดรอลิค2ตัวยึดกับตัวถึงรถและยึดต่อกพับสะพานด้วยข้อต่อหมุนงอได้เมื่อกระบอกผลักดัน หมุน แท่นหางได้ 170องศา
หมายเหตุ แน่ใจว่าสลักจุดหมุนได้รับการหล่อลื่นตามตารางการหล่นลื่น
หมายเหตุ เช็คการสึกของแท่นล็อคตำแหน่งหยุดของแท่นรับสะพาน เชื่อมเสริมเปลี่ยน เมื่อพบว่าสึก
การเปลี่ยนข้อต่อและสลัก
ข้อต่อและสลักควรเช็คการสึกทุกสัปดาห์และเปลี่ยนเมื่อจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าระบบขับเคลื่อน ทิศทางไม่เสียหายจากการหลวมฟรีในชุดข้อต่อ
วิธีการ
1.ถอดน็อคล็อคหัวสลักออกตีสลักและถอดข้อต่อออกเช็คการสึก
2.เปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอ
หมายเหตุ
- แน่ใจว่าข้อต่อและสลักของชุดเคลื่อนไม่ติดขัด เช็คทุกสัปดาห์และหล่อลื่นเสมอ
- การปล่อยละทั้งการเปลี่ยนข้อต่อและสลักที่สึกหรอสามารถเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายกับบริเวณอื่นๆ ได้เช่น กระบอกไฮดรอลิค
พัดลมทำความสะอาด
ทำงานของพัดลม
พัดลมทำความสะอาดตัวใหญ่และเล็กเป็นตัวหลักในการทำความสะอาดของระบบการตัดอ้อยโดยดูดเอาเศษใบอ้อย สิ่งสกปรกผ่านชุดใบพัดลมเป่าทิ้งออกไปจากตัวรถ และรถขนส่ง ที่ตามรับอ้อยจากรถตัดอ้อย เพื่อขนส่งไปยังโรงงาน
ระบบพัดลมทำความสะอาดยังผลให้เกิดความสึกหรอกับใบพัดและแผ่นกันสึกที่ใช้งานตลอดเวลา
การออกแบบพัดลมดูดประกอบด้วยดุมจับใบพัดลมที่ไว้จับใบพัดลมโค้งจำนวน 3 ใบ
ใบพัดลมควรใช้ในสภาพที่ดีอยู่เสมอเพื่อให้แน่ใจว่ามีแรงดูดสูงสุด การสึกของใบพัด หรือ การเสียหายเนื่องจากวัสดุแปลกปลอม จะทำให้การหมุนของพัดลมขาดสมดุลจึงจำเป็นต้องถ่วงสมดุลหรือเปลี่ยนใบพัดลมใหม่ ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนอื่นการใส่ใบพัดลมที่ไม่ได้มาตราฐานจะทำให้เกิดการทำงานเกินภาวะของอุปกรณ์ไฮดรอลิคทำให้อายุการใช้งานสิ้นลง
การเปลี่ยนใบพัดลม
คุมจับใบพัดลมควรทำความสะอาดเมื่อมีสิ่งสงปรกมาพอกก่อนที่จะทำการใส่ใบพัดลมใหม่ใบพัดลมที่ใช้แต่ละชุด 3 ใบ จะได้รับการถ่วงสมดุลย์แล้ว หลังจากใส่พัดลมใหม่แล้วข้อสำคัญควรเช็คความสมดุลของพัดลมอีกครั้ง
หมายเหตุ การเช็คสมดุลของพัดลม ยึดใบพัดลมกับดุมพักลมแท่นถ่วงสมดุล เขียนหมายเลขใบพัด1,2,3 แล้วหมุนพัดลมช้าๆ จนหยุดนิ่งใบพัดลมที่หนักกว่าจะห้อยลงล่าง เจียรปลายใบพัดที่หนักกว่าที่ห้อย แล้วหมุนเช็คอีกจนกว่าไม่มีใบพัดใดห้อยล่างนั่นคือพัดลมสมดุล
พัดลมทำความสะอาดพัดลมแบบขายึดแนวตั้ง ควรทำความสมดุลย์ พัดลมทุกครั้งที่เปลี่ยนใบพัดลมซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากแท่นยึดขาจับพัดลมไม่ได้ต่อกับโครงตัวถังที่แข็งแรงแต่ยึดติดแบบกับปล่องพัดลม หากเกิดการเหวี่ยงสั่นเนื่องจากความไม่สมดุลย์แรงกระทำที่เกิดจะมากกว่าแท่นขายึดแนวนอนที่ยึดกับตัวถัง
การหมุนสั่นของขายืดแนวตั้งอาจเกิดจากสิ่งสกปรกพอกติดกับขาตั้งที่หมุนได้ อย่างไรก็ดีก่อนทำการ ใส่ชุดพัดลมใหม่การทำความสะอาดขายืดด้วยพร้อมกันในทีเดียว
ลูกปืนพัดลมจะหล่อลื่นโดยน้ำมันไฮดรอลิค(ห้ามใช้น้ำมันเกียร์)ควรตรวจสอบระดับน้ำมันและคุณภาพของน้ำมันทุกๆสัปดาห์
การตรวจสอบควรทำพร้อมกับการทำความสะอาดสิ่งปรกที่พอติดอยู่ด้วยเศษดินผสมกับอ้อมที่พอติดอุดตันตามขอบปล่องควรทำความสะอาดอยู่เสมอ
การเปลี่ยนแผ่นกันสึกปล่องพัดลม
ส่วนที่สึกหรอมากสุดของพัดลมทำความสะอาดจะถูกป้องกันโดยแผ่นกันสึกเพื่อป้องกันการเสียหายที่จะเกิดขึ้นโครงปล่องพัดลม แผ่นรองกันสึกจะเชื่อมยึดเป็นจุดกับเสื้อปล่องพดลม
วิธีการ
1.เจียรรอยเชื่อมจุดออก หรือตัดออกแล้วถอดแผ่นกันสึก
2.เปลี่ยนแผ่นกันสึกใหม่และเชื่อมจุดยึดติด
ข้อควรระวัง
ห้ามเชื่อมบนแผ่นกันสึกบริเวณที่ใบพัดลมวิ่งผ่านซึ่งจะมีผลทำให้ระยะห่างระหว่างขอบใบพัดกับผหิวปล่องด้านในน้อยลงทำให้แรงขึ้นมากเกินและทำให้ใบพัดลมติดขัดได้ การติดขัดทำให้เกิด น้ำมันไฮดรอลิคร้อนจัด จะทำให้เกิดฟองอากาศในน้ำมันและอายุการใช้งานของอุปกนณ์ไฮดรอลิคสั้นลง
การปรับแผ่นกันอ้อยกระเด็นใต้ชุดพัดลมดูดตัวใหญ่
แผ่นกันอ้อยกระเด็นนี้ปรับเพื่อให้กำจัดเศษใบอ้อยให้ได้มากที่สุด โดยขึ้นอยู่กับพันธุ์และสภาพของอ้อย
การปรับทำโดย: คลายน็อตตัวผู้(A)
คลายน็อตตัวผู้(B)
ปรับแผ่นกันอ้อยตามตำแหน่งที่ต้องการ
ใส่น็อตตัวผู้(A)
หมายเหตุ แผ่นกันอ้อยนี้สามารถลดการสูญเสียของอ้อยเนื่องจากพัดลมดูดได้
การดูแลรถตัดอ้อยระหว่างพัก และ ในระหว่างวันที่ตัดเสร็จ
ทำความสะอาดเศษใบอ้อยและสิ่งสกปรกจาก
1.ตะแกรงฝาครอบเครื่อง
2.ตะแกรงฝาปิดหม้อน้ำ และ ออยล์คูลเลอร์
3.ถ้วยตักฝุ่นกรองอากาศเครื่องยนต์
4.ฝาปิดเปิดท่อไอเสีย
5.ถ้วยตักฝุ่นกรองอากาศเครื่องปรับอากาศ
GuRu CASE IH อบรมการซ่อมบำรุงหลังปิดหีบ ชาวไร่อ้อย บุรีรัมย์ 25 พฤษภาคม 2565

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การแก้ปัญหาระบบไฟฟ้ารถตัดอ้อย CASE A8000